ต๊าย! เสื้อสวยๆ ของฉัน ทำไมมันถึง เก่า ดูหมอง ไม่สดใส เร็วขนาดนั้น… ก็หารู้ไม่ว่า วัันๆ คุณได้แต่ใส่มัน พอตกเย็นก็เอาพวกมันหย่อนลงในถังซักผ้า เทผงซักฟอก กดปุ่มสตาร์ทแค่นั้น ปล่อยให้พวกมันถูกปั่น โดยขาดการดูแลเอาใจใส่ แหม ไม่มีเวลานี่คะ ก็ต้องใช้ตัวช่วยอย่างเครื่องซักผ้าแบบนี้ล่ะค่ะ ลองดู เคล็ดลับง่ายๆ ซักแบบถนอมเนื้อผ้า เพื่อถนอมเสื้อผ้าตัวสวยของเรา ให้อยู่กับเราไปนานๆ ใช้เวลาเพิ่มอีกวันละน้อยนิดเองค่ะ
สิ่งสกปรกบนเสื้อผ้า
ตัวการที่ทำให้เสื้อผ้าตัวสวยของเราเก่า หมอง ไม่สดใส ก็คือ สิ่งสกปรก ค่ะ
เจ้าสิ่งสกปรก ส่วนใหญ่ัมาจาก เหงื่อไคล ฝุ่นละออง ควัน เขม่า คราบไขมัน คราบอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสกปรกที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ยังอาจจะเป็นสิ่งสกปรกที่เกิดจากการเลอะเปื้อน จำพวกสี หมึก ลิปสติก หมากฝรั่ง ยา่งดอกไม้หรือต้นไม้ น้ำมันรถ น้ำมันเครื่อง คราบเลือด เครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ ช็อคโกแล็ต อาหารประเภทครีม เนย น้ำมัน… ซึ่งเกิดขึ้นไม่ได้บ่อยนักค่ะ
ถ้่าจะให้แยกประเภทจากวิธีการทำความสะอาด แยกได้คร่าวๆ 3 ประเภท ดังนี้
1. 95% เป็นสิ่งสกปรกทั่วไปที่ละลายทำความสะอาดได้ด้วยผงซักฟอกและน้ำ
2. 4 % เป็นสิ่งสกปรกที่ต้องการใช้แรงขัดสีในการทำความสะอาด
3. 1 % เป็นสิ่งสกปรกที่ต้องใข้วิธีพิเศษและสาีรเคมีในการทำความสะอาด
ทีนี้ก็มาถึง เคล็ดลับง่ายๆ ซักแบบถนอมเนื้อผ้า จะสรุปเป็นข้อๆ แล้วกันนะคะ
1. การแยกเสื้อผ้า
ก่อนซักให้แยกเสื้อผ้าที่มีความสกปรกมากออกจากเสื้อผ้าอื่นๆ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่หลุดละลายระหว่างการซัก ไปเกาะติดบนเสื้อผ้าตัวอื่นๆ เช่นเดียวกัน แยกเสื้อผ้าสีเข้ม หรือ สีตก ออกจากเสื้อผ้าสีขาว หรือ สีอ่อน การแยกซัก จะทำให้สีสันเสื้อผ้าของเราดูไม่เก่า ไม่หมองง่ายค่ะ
2.ขจัดสิ่งสกปรกบนเสื้อผ้าเฉพาะที่
ตรวจดูเสื้อผ้าของเราว่า มีสิ่งสกปรกแบบไหนบนเสื้อผ้าของเราค่ะ
1.1 ถ้าเป็นสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง คราบเหงื่อไคลทั่วไป สิ่งสกปรกเหล่านี้สามารถละลายออกได้ด้วยผงซักฟอกทั่วไป เพราะฉะนั้นไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติมค่ะ
1.2 หากเป็นสิ่งสกปรกข้อ 1.1 แต่เป็นคราบฝังแน่น สกปรกมาก อาจจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ซักฟอกผ้าขาว ซักฟอกผ้าสี น้ำยาขจัดคราบไคล ป้ายลงบนผ้า และอาจใช้แปรงขัดช่วยทำความสะอาดร่วมด้วยค่ะ
1.3 สิ่งสกปรกที่ต้องใข้วิธีพิเศษ และสาีรเคมีในการทำความสะอาดส่วนที่เลอะเปื้อนคราบ ขอยกบางตัวอย่างที่พบเห็นบ่อยๆ นะคะ
- เปื้อนสีหมึกจากปากกาลูกลื่น ขจัดคราบโดยใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ดค่ะ
- เปื้อนสีหมึกจากปากกาเมจิก ขจัดคราบโดยถูด้วยน้ำมันสนค่ะ
- เปื้อนสีน้ำมัน ขจัดคราบโดยใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่ม แล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกทีค่ะ
- รอยลิปสติก ให้ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อน หรือ นำมาแช่้ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหายค่ะ
- หมากฝรั่งติด ให้ขูดยางหมากฝรั่งออกด้วยสันมีด แล้วใช้น้ำแข็งถูเพื่อให้ยางนั้นแข็งตัว ค่อยๆ แกะออก แล้วใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ด นำไปซักในน้ำสบู่อ่อนๆ ค่ะ
- เปื้อนยางดอกไม้หรือต้นไม้ นำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน อาจใช้ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวช่วยด้วยก็ได้ค่ะ
- คราบน้ำมันรถ น้ำมันเครื่อง ให้ใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อน รอยเปื้อนจะจางลงค่ะ
- คราบเลือด ให้นำไปแช่น้ำแข็งไว้ 15 นาที คราบเลือดจะแข็งตัว และหลุดออก อาจใช้ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวช่วยด้วยก็ได้ค่่ะ
- คราบเครื่องดื่มจำพวกชา กาแฟ ช็อคโกแล็ต ให้นำไปแช่ในน้ำร้อน จนสีจางลง ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออกอีก ให้ใช้ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาวช่วยด้วยก็ได้ค่ะ
- อาหารประเภทครีม เนย น้ำมัน ให้นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย ใช้กระดาษทิชชู หรือกระดาษบางอื่นๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร ทับบนกระดาษ จนแป้งดูดคราบออกจนหมด
3. ล้างสิ่งสกปรกออกด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง
ก่อนที่จะทำการขยี้ซักแบบปกติ หรือโยนลงในเครื่องซักผ้า ควรล้างสิ่งสกปรกออกด้วยน้ำสะอาด 1 ครั้ง เพราะจะช่วยชะล้างสิ่งสกปรกที่ติดมากับเสื้อผ้าออกไป เป็นการลดปริมาณสิ่งสกปรกในกะลามังซักผ้า หรือในตัวถังของเครื่องซักผ้า ขณะซักด้วยผงซักฟอก และนั่นหมายถึง เราใช้ปริมาณผงซักฟอกน้อยลงด้วย ประหยัดขึ้นด้วยค่่ะ
4. ขั้นตอนการซักผ้า
- ถ้าซักด้วยมือ ให้ทยอยใส่สื้อผ้าลงในกาละมังทีละน้อยนะคะ อย่าเทลงหมด เพราะหากเทลงหมด จะทำให้เสื้อผ้าดูดน้ำผงซักฟอกของเราไปเกลี้ยง แน่นกาละมัง เนื้อที่สำหรับการขยี้ผ้าก็จะน้อยลง ทำให้ซักไม่สะอาด และควรไล่ซักตั้งแต่เสื้อผ้าสีขาว สีอ่อน ไปเรื่อยจนถึงเสื้อผ้าสีเข้ม เสื้อผ้าสกปรกมาก และผ้าสีตกให้ซักเป็นอันดับสุดท้าย วิธีนี้จะทำให้สีเสื้อผ้าไม่หมอง สีไม่ตกใส่กัน และยังประหยัดผงซักฟอกอีกด้วยค่ะ
- สำหรับเครื่องซักผ้า เราทำไม่ได้ที่จะซักทีละตัวสองตัว ค่ะ ไม่มีทางเลือก เราคงต้องใส่เสื้อผ้าครั้งละคราวมากๆ (ขึ้นอยู่กับขนาดของตัวถังที่กำหนดไว้) ดังนั้น ควรคัดเลือกผ้าเป็นพิเศษ ผ้าขาวแยกซัก 1 ครั้ง อนุโลมให้ผ้าสีอ่อนๆ ปะปนซักด้วยได้บ้างค่ะ ผ้าสีเข้มสามารถซักร่วมกับผ้าที่สกปรกมากหรือผ้าที่สีตกสีีโทนเดียวกัน ผ้าบางแยกซักกับผ้าหนาคนละครั้ง เพราะเราสามารถเลือกตั้งโปรแกรมวิธีซักปั่นผ้าหนา ผ้าบาง ซักแบบประหยัด ซึ่งจะเหมาะสมกว่าและได้้ผ้าสะอาดมากยิ่งขึ้น
- ควรเลือกผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ถนอมเนื้อผ้า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในปริมาณที่เหมาะสมและชำระล้างด้วยน้ำให้สะอาดหมดจด เพื่อป้องกันผงซักฟอกตกค้าง ทำลายเนื้อผ้า เป็นพิษ อาจเกิดการแพ้และระคายเคืองเมื่อสวมใส่ค่ะ
5. ขั้นตอนการตากผ้า โดยปกติ การตากผ้ากลางแดด ที่โล่ง ๆ นอกจากจะทำให้เสื้อผ้าแห้งแล้ว แสงแดดยังช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงถึง ผ้าบางชนิดหากตากกลางแดด จะมีผลต่อเนื้อผ้า ผ้าเสียคุณสมบัติไป หด ซีดเก่า ได้แก่ ผ้าใยสังเคราะห์ ผ้ายืด ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหมพรม ผ้าชุดชั้นใน หรือผ้าชนิดพิเศษ ที่ระบุโดยเฉพาะว่าต้องตากในร่ม อาศัยเพียงลมโกรกเท่านั้น จึงไม่ควรตากกลางแจ้ง และอีกอย่างผ้าทุกชนิด ไม่ว่าจะตากในที่ร่มหรือกลางแจ้ง ก่อนการตากควรสบัดให้เนื้อผ้าเรียบ คลายตัว จะง่ายต่อการรีด และต้องกลับด้านนอกเข้าด้านใน เพื่อป้องกันการซีดของเนื้อผ้าค่ะ
6. ขั้นตอนการรีด การรีดกดทับและความร้อนที่ใช้ มีผลกับเนื้อผ้าทั้งนั้น ดังนั้น จึงควรศึกษาเนื้อผ้าแต่ละชนิด หากไม่แน่ใจ ให้ใช้ความร้อนต่ำๆ หรือปานกลาง และการใช้เตารีดไอน้ำ เป็นอีกวิธีช่วยถนอมเนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เรายังใช้น้ำยารีดผ้าร่วมด้วยจะช่วยให้งานรีดผ้าง่ายขึ้น ไม่เสียเวลานาน และนั่น ทำให้เนื้อผ้าซีดเก่าช้าลงด้วยค่ะ
เป็นไงกันบ้างคะ เคล็ดลับง่ายๆ ซักแบบถนอมเนื้อผ้า ลองดูนะคะ ^__^
Queengarment.com โรงงานผลิตและจำหน่าย เสื้อโปโล, เสื้อโปโลยูนิฟอร์มบริษัท, เสื้อยืิด, เสื้อคอกลม, เสื้อคอวี รับทำไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ